รอย แผลเป็น เกิดจากอะไรได้บ้าง มีวิธีการรักษา อย่างไร

รอย แผลเป็น

โดยทั่วไปแล้ว รอย แผลเป็น จะเป็นรอยที่เกิดขึ้นเมื่อแผลนั้น ๆ เริ่มหายดีแล้ว ซึ่งไม่ใช่ว่าบาดแผลทุกบาดแผลจะสร้างรอยแผลเป็นได้ จะต้องเป็นแผลที่หายดีแบบไม่สมบูรณ์ เนื่องจากเกิดความผิดปกติในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ จึงทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวมีลักษณะแตกต่างจากผิวหนังบริเวณใกล้เคียง โดยแผลเป็นสามารถจำแนกออกเป็นชนิดต่าง ๆ ดังนี้

ชนิดของ รอย แผลเป็น มีดังนี้

ชนิดของ รอย แผลเป็น มีดังนี้

– Mature scare เป็นแผลเป็นที่มีสีของรอยแผลใกล้เคียงกับผิวหนังปกติ เช่น แผลที่เกิดจากมีดบาด

– Atrophic scare รอย แผลเป็น ชนิดนี้ อยู่ลึกลงใต้ชั้นผิวหนัง โดยมีสีของแผลเป็นใกล้เคียงกับสีผิวหนังบริเวณใกล้เคียง เช่น แผลเป็นจากสิว เป็นต้น

– Stretched scare แผลเป็นชนิดนี้ เป็นแผลแบบเรียบ สีของแผลเป็นจะจางกว่าสีผิวหนังบริเวณใกล้เคียง

– Contracted scare เป็นแผลที่มีลักษณะการหดรั้งของผิวหนัง มักเกิดบริเวณตามข้อของร่างกาย เช่น บริเวณข้อมือ เป็นต้น

– Hypertrophic scare เป็นแผลที่มีลักษณะนูนขึ้นเหนือผิวหนัง สีของแผลเป็นจะเข้มกว่าสีผิวหนังบริเวณใกล้เคียง มักเป็นรอยแผลที่เกิดจากการฉีกขาดของเนื้อเยื่อที่มีความลึก

– Keloids เป็นแผลเป็นที่มีลักษณะนูนขึ้นจากผิวหนัง เช่นเดียวกับ  Hypertrophic scare แต่สีของแผลเป็นจะจางกว่าบริเวณใกล้เคียง และแผลเป็นจะขยายกว่าวงกว้างของบาดแผลที่เกิดขึ้น

คำค้นหาเพิ่มเติม
ครีมลดรอยแผลเป็น หน้า
ลบรอยแผลเป็นบนใบหน้า
ลบรอยแผลเป็น pantip
เลเซอร์ลบรอยแผลเป็น
วิธีลบรอยแผลเป็นที่ขา
ครีมลดรอยแผลเป็นที่ขา

การรักษา รอยแผลเป็น

รอยแผลเป็น หากมีขนาดใหญ่พอที่จะสังเกตได้อยู่ตามผิวหนังที่สามารถมองเห็นได้เด่นชัด ก้อาจจะสร้างความกังวลใจให้กับเจ้าตัวได้ เช่นนั้นแล้วทางการแพทย์จึงได้คิดค้นนวัตกรรมที่ใช้ในการรักษาแผลเป็นขึ้นมามากมาย โดนสมารถแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้

การรักษา รอยแผลเป็น

1. การรักษาโดยไม่ใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นการรักษาแผลเป็นที่เหมาะกับคนที่กลัวหมอ และต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยมีวิธีการรักษา เช่น

– การใช้ยาทา ซึ่งยาที่ใช้สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา หรือสั่งตามอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีหลากหลายยี่ห้อ โดยส่วนใหญ่แล้ว การใช้ยาทาหรือครีมทาแผลเป็น จะช่วยลดอาการแดงได้ และทำให้แผลเป็นบางชนิดมีขนาดเล็กลง แต่ไม่สามารถทำให้แผลเป็นหายไปได้

– การรับประทานยา เป็นการกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิวจากภายในร่างกาย ควรได้รับคำแนะนำทางการแพทย์

การรักษา รอยแผลเป็น หากเป็นหนัก ให้ปรึกษาแพทย์

2. การรักษาโดยใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นวิธีการรักษา รอยแผลเป็น ที่ค่อนข้างมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าวิธีแรก แต่ก็สามารถให้ผลที่น่าพึงพอใจมากกว่า โดยมีวิธีการรักษา เช่น

– การฉีดสารสเตียรอยด์ โดยแพทย์จะเป็นผู้ฉีดสารชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายเรา เพื่อกระตุ้นให้แผลเป็นยุบตัวลง

– การฉีดสารเติมเต็ม โดยจะใช้วิธีนี้ก็ต่อเมื่อแผลเป็นมีรอยบุ๋มเท่านั้น

– การใช้เลเซอร์ โดยการใช้เลเซอร์จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ โดยเลเซอร์แต่ละประเภทยังจะสามารถรักษาแผลเป็นได้แตกต่างกัน

– การผ่าตัด วิธีนี้แพทย์จะตัดแผลเป็นเก่าออกแล้วเย็บใหม่ หรือบางกรณีจะย้ายผิวหนังจากบริเวณอื่นมาปิด รอยแผลเป็น วิธีการนี้เหมาะกับการรักษาแผลเป็นที่มีบริเวณกว้าง

แต่ละบุคคลจะมีรอย แผลเป็น ที่มีลักษณะไม่เหมือนกัน ดังนั้นการเลือกวิธีรักษาแผลเป็น จึงควรเลือกวิธีที่เหมาะกับการรักษาแผลเป็นของตนเอง